Menu
Airbnb คือ แพลตฟอร์มออนไลน์ตัวกลางให้เช่าห้องพักที่เชื่อมต่อผู้คนระหว่างผู้ให้เช่า(Host) และผู้เข้าพัก(Guest)
ซึ่งโฮสต์ทำการให้เช่าห้องว่างบางส่วนของตนโดยพื้นที่ถูกปล่อยเช่าส่วนใหญ่เป็นอพาร์เมนท์ คอนโด หรือ ห้องว่างภายในบ้าน ในส่วนของผู้เข้าพักจะทำการค้นหาห้องพักตามโลเคชั่นที่ต้องการรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในราคาที่พึงพอใจ
ด้วยรูปแบบธุรกิจที่โดดเด่นโดยการนำเสนอประสบการณ์การเดินทางที่แปลกใหม่ให้กับสายเที่ยว ในราคาที่มีให้เลือกหลากหลาย ทำให้หลังจากการเปิดตัวของ Airbnb ได้ไม่นานบริษัทกลายเป็น Unicorn สตาร์ทอัพหน้าใหม่ของวงการ
ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าตลาดหุ้นNasdaqปี 2020 ด้วยเงินระดมทุนทั้งหมด 25.9ล้านเหรียญ ภายใต้ชื่อ ABNB
แม้การเดินทางของ Airbnb เหมือนจะสวยหรูเพียงแค่ไม่กี่ปีก็ประสบความสำเร็จ แต่ช่วงเริ่มต้นของบริษัทมีผู้เข้าพักเพียง 3 คนเท่านั้นแตกต่างจากปัจจุบันที่มีการขยายไปมากกว่า 191 ประเทศด้วยโฮสต์ที่ให้บริการห้องพักมากกว่า 4ล้านโฮสต์และนำเสนอกว่า 7.7ล้านรายการห้องพักทั่วโลก
จุดเริ่มต้นของ Airbnb ไม่ได้มีไอเดียจากอสังริมทรัพย์ ที่ดินหรือ อพาร์ทเมนต์ แต่ความเป็นมาเริ่มปี 2007 ด้วยสาเหตุง่ายๆของผู้ก่อตั้งทั้งสอง Brian Chesky และ Joe Gebbia เพื่อนซี้ร่วมห้องที่ต้องนั่งวิตกปัญหาทางการเงินไม่พอจ่ายค่าเช่า
สองนักออกแบบหนุ่มอย่างพวกเขาจึงมองหาหนทางที่จะเพิ่มรายได้จนกระทั่ง Brian Chesky เกิดปิ๊งไอเดียหลังเห็นห้องพักโรมแรมย่านซานฟรานซิสโกถูกจองเต็มหมดสำหรับงานประชุมออกแบบที่จะถึง
เขาจึงส่งอีเมล์หารูมเมทเกี่ยวกับแนวคิดที่สร้างเงินจำนวนเล็กๆน้อยๆจากการเปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นที่พักพร้อมบริการ อินเทอร์เน็ต โต๊ะทำงานขนาดเล็ก ที่นอนเตียงลม รวมถึงอาหารเช้า
Joe Gebbia ตอบกลับด้วยความสนใจในทันที ทั้งคู่ตัดสินใจร่วมมือกันโดยพัฒนาต้นแบบเว็บไซต์ขึ้นมาอย่างรวดเร็วในรูปแบบง่ายๆด้วยชื่อ airbedandbreakfast.com สำหรับหาแขกผู้เข้าพักในงานที่จะถึงนี้
ทั้งคู่ได้แขกเข้าพักทั้งหมดสามคนด้วยกัน สร้างประกายความหวังให้เห็นโอกาสธุรกิจที่เปลี่ยนชีวิตพวกเขา ต่อมาทั้งคู่ได้ชวน Nathan Blecharbzyk อดีตเพื่อนร่วมห้องผู้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและเว็บไซต์เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอีกคน
แล้วทำการก่อตั้งบริษัทขึ้นปี 2008 เริ่มต้นด้วยปรับเปลี่ยนรูปแบบเว็บไซต์เป็นให้บริการหารูมเมท แต่ทำได้ไม่นานก็ต้องย้อนกลับไปยังแนวคิดเดิมเมื่อพบว่ามีเจ้าตลาดอยู่แล้วอย่าง roomates.com
ทั้งสามคนกลับมาปรับปรุงเว็บ airbedandbreakfast.com อีกครั้งแล้วสร้างเว็บให้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกของกลุ่มคนที่เข้าร่วมงานประชุมแล้วจองโรงแรมไม่ทันด้วยราคา 80เหรียญต่อคืน
การเปิดตัวครั้งนี้ได้แขกเข้าพักทั้งหมดเพียงแค่ 3คนและหนึ่งในนั้นคือ Brian Chesky เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผลตอบรับครั้งนี้ไม่ดีอย่างที่หวังไว้ แม้พวกเขาจะลองอีกครั้งในงานประชุมอื่น ผลที่ได้ยังคงเป็นดังเดิม
อย่างไรก็ตามทั้งสามคนยังมั่นใจรูปแบบธุรกิจของบริษัท ย้อนกลับมาปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดูดี ใช้งานง่ายกว่าเดิม ด้วยการออกแบบให้ผู้ใช้งานสามารถจองห้องพักได้เพียง 3 คลิกเท่านั้นแต่เมื่อพวกเขานำเสนอไอเดีย Airbed & Breakfast ให้กับกลุ่มนักลงทุน 15 ราย กลับถูกปฏิเสธจาก 8 คน และไม่ได้รับความสนใจจากอีก 7 คน
การโดนปฏิเสธของกลุ่มนายทุนทำให้ความหวังที่จะได้เม็ดเงินมาหมุนเวียนเพิ่มภายในบริษัทต้องหายไป แต่หนี้สินภายในยังคงอยู่เหมือนเดิม
ทั้งสามคนจึงหาทางสร้างกระแสเงินสดใหม่เพื่อยื้อ Airbed & Breakfast ให้ดำเนินงานต่อได้โดยใช้ความรู้ความสามารถการออกแบบกับการเดิมพันบนกล่องซีเรียล
ปัญหาหนี้สินที่มีอยู่ประมาณ 40,000 เหรียญ พวกเขาจึงหันกลับมามองไอเดีย Airbed & Breakfast อีกครั้งและได้แนวคิดใหม่ เมื่อ Air Bed ของพวกเขายังไม่ค่อยได้ผลแล้วทำไมไม่ลองหันเหไปทางอาหารเช้าก่อน
โดยลงทุนซื้อกล่องซีเรียลแล้วทำการออกแบบดีไซน์ เกาะกระแสช่วงระหว่างการหาเสียงของผู้สมัครทั้งสองอย่างบารัค โอบามา และ จอห์น แม็คเคน ในราคากล่องละ 40เหรียญ หรือกล่องซีเรียลราคาพันกว่าบาท
ถึงแม้สินค้าจะราคาสูงแต่ด้วยของที่มีจำกัดและดีไซน์กล่องกลายเป็นหนึ่งในขวัญใจของนักสะสม ทำให้ซีเรียลกล่องละพันกว่าบาทปิดจบการขายครั้งนี้ด้วยเงินทั้งหมด 30,000เหรียญ จากการลงทุนเพียงไม่กี่ดอลลาร์
เงินที่ได้มาถูกใช้หมุนเวียนในบริษัทได้เพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น พวกเขารู้ดีว่าต้องหาเงินทุนเพิ่มอีกจึงสมัครโครงการของ Y Combinator บริษัทร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพที่ช่วยเหลือและสนับสนุนเหล่าบริษัทหน้าใหม่ไฟแรงแลกกับสัดส่วนหุ้นในบริษัทนั้น
ทั้งสามเสนอไอเดียธุรกิจให้กับ Paul Graham ผู้ร่วมก่อตั้ง Y Combinator ในตอนแรกเขาไม่สนใจ Airbed & Breakfast มากนัก แต่เมื่อฟังเรื่องราวการขายกล่องซีเรียลในราคา 40 เหรียญ ทั้งที่มูลค่าจริงๆ ควรเป็นแค่ 4 เหรียญ
Paul Graham กลับรู้สึกประหลาดใจและเริ่มสนใจความสามารถของทั้งสามคนในการโน้มน้าวให้ผู้คนยอมจ่ายราคาสูงสำหรับสิ่งธรรมดา ซึ่งทำให้เขาคิดว่าหากทำได้กับซีเรียล ก็อาจทำได้กับธุรกิจที่พักในบ้านคนแปลกหน้าได้เช่นกัน
หลังจากเข้าร่วมโครงการ Y Combinator บริษัท Airbed & Breakfast ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับรูปแบบธุรกิจ
โดยเน้นการพัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายขึ้น และมุ่งสร้างความไว้วางใจระหว่างเจ้าของที่พักกับผู้เช่า นอกจากนั้นทางทีมงานยังได้รับแนวทางในการขยายตลาดและดึงดูดลูกค้ารวมถึงวิธีการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโต
ส่งผลให้บริษัทสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จในการระดมทุนจากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Sequoia Capital ที่สนับสนุนเงินทุนกว่า 600,000 เหรียญสหรัฐต่อมาภายหลังบริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น Airbnb ในปี 2009
เส้นทางความสำเร็จของ Airbnb ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อทีมผู้ก่อตั้งปรับปรุงเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายและเน้นคุณภาพรูปภาพให้คมชัด รวมถึงการให้ข้อมูลที่ละเอียดเกี่ยวกับที่พัก
สร้างการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย และ SEO จนติดอันดับการค้นหาบน Google ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 3ปีหลังจากก่อตั้งบริษัท Airbnbกลายเป็นบริษัทUnicorn ด้วยมูลค่าหลายพันล้านเหรียญและขยายบริการไปยัง 89 ประเทศ
การเติบโตที่มากขึ้นทำให้บริษัทต้องเผชิญปัญหามากตามไม่ว่าจะกฎหมายแต่ละประเทศหรือปัญหาการเข้าพักของแขกที่ทำให้โฮสต์หลายคนต้องกุมขมับ จนในปี 2012 บริษัทต้องออกนโยบายคุ้มครองโฮสต์ 1 ล้านเหรียญ
วิธีรับมือและนโยบายต่างๆที่บริษัทตั้งขึ้นในการแก้หรือลดปัญหา สร้างการเติบโตจนมีผู้ใช้กว่า 150 ล้านบัญชี และรายได้มากกว่า 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
จากเมล็ดพันธุ์เล็กๆที่แตกก้านสาขาไปสู่บริษัทระดับโลกกลายเป็นหนึ่งในแพลทฟอร์มสำหรับนักเดินทางทั้งหลายกับประสบการณ์การเดินทางพักผ่อนในห้องพักที่แปลกใหม่นอกเหนือจากโรงแรม
ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายตามโลเคชั่นที่ต้องการโดยเฉพาะการจองห้องพักในร้านอาหารและคาเฟ่ นอกจากนั้นยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างรายได้เสริมสำหรับกลุ่มคนผู้สนใจแชร์ห้องว่างบางส่วนของตนให้เกิดประโยชน์ จากการเข้าร่วมเป็นโฮสต์บนแพลทฟอร์ม Airbnb
